โลกของเรายุค 4.0 แบบนี้เชื่อได้เลยว่าความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก ยิ่งเร็วยิ่งดี ยิ่งได้เยอะ เอาไว้ก่อน หลายคนมีความโลภและแนวคิดอย่างนี้เต็มไปหมด แนวคิดการเสียสละต่อส่วนรวม การมีจิตสาธารณะดูจะเป็นเรื่องล้าสมัยไปเสีย เพื่อทำความเข้าใจกันใหม่ เราจะมาบอกว่าหากเราเสียสละแก่ส่วนรวม เราจะได้อะไรจากสิ่งนั้น

ยกระดับจิตใจ

จิตของผู้ให้จะสบายกว่าผู้รับ หรือ จิตที่ให้จะเบา จิตที่เอาจะหนัก หากเราได้เสียสละต่อส่วนรวมไม่ว่าจะเป็นแรงกาย ทรัพย์สินเงินทอง เวลา ของเรานี้เมื่อเราสละไปแล้ว จะทำให้จิตใจของเราเบาขึ้น พูดง่ายๆการเสียสละจะยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ลดอัตตาในตัวเองลง ลดยึดมั่นถือมั่นทิฐิในตัวเองลงได้เยอะ ยิ่งเสียสละก็ยิ่งได้ยกระดับจิตใจมากขึ้นตามความตั้งใจของตัวเอง

จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ

เวลาเราเสียสละบางอย่างให้กับคนอื่น หรือ ส่วนรวม มันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนมนุษย์ร่วมสังคมเดียวกันก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น เราลุกเสียสละที่นั่งให้กับเด็ก สตรี คนชรา คนท้อง หรือ พระสงฆ์ที่ขึ้นมาบนรถเมล์ หรือ รถไฟฟ้า เชื่อว่าระหว่างทางเส้นนั้น เราจะได้เพื่อนคุยตลอดทางแน่นอน แม้ว่าเราจะเมื่อยสักหน่อยเนื่องจากยืนแต่ก็แลกมากับความไม่เบื่อระหว่างรถติด เป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก

ความโชคดีที่ไม่ต้องร้องขอ

เราอาจจะเคยเจอเรื่องโชคร้ายบางอย่างที่มันเป็นดั่งใจ แล้วต้องภาวนาขอให้ทุกอย่างดีขึ้นไหม แน่นอนว่าหากเราเป็นคนเสียสละต่อส่วนร่วม บางเหตุการณ์ความเสียสละอาจจะย้อนกลับมาช่วยเหลือเราแบบไม่ต้องร้องขออะไรเลยก็ได้ เช่น เราอาจจะเสียสละเวลาวันหยุด ตัดเล็มต้นไม้ข้างทางบนถนนในหมู่บ้าน วันหนึ่งเราอาจจะบอกว่าโชคดีที่ต้นไม้ไม่หักโค่นใส่ในวันฝนตกก็เป็นได้ แน่นอนว่าความโชคดีแบบนี้ไม่ได้เกิดจากโชคแต่เกิดจากความเสียสละ

ตัวอย่างที่ดีต่อเด็ก

ยุคที่อะไรก็เร็วไปหมดพ่อแม่หลายคนอาจจะกังวลใจว่า จะสอนลูกหลานของตัวเองให้เป็นคนดีได้อย่างไร คำพูดคำสอนยังเป็นเครื่องมือสำคัญก็จริง แต่ตัวอย่างที่ดีต่อเด็กกลับเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า รู้หรือไม่ว่าเพียงแค่เราช่วยเหลือคนด้วยความเสียสละเพียงเล็กน้อย สิ่งนั้นจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กเพื่อทำความดีต่อไปมากกว่าเราพูดเป็นสิบครั้งเสียอีก หากพ่อแม่ต้องการให้เค้าเป็นคนดี รู้จักเสียสละ ก็ควรจะทำให้ดูก่อนเดี๋ยวเค้าซึมซับทำตามเอง

เสียสละ ส่งต่อเสียสละ

ความเสียสละเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง หากเราได้รับการเสียสละอะไรสักอย่างมาจากคนอื่น มันจะทำให้เกิดพลังงานเพื่อเสียสละเพื่อคนอื่นต่อไปด้วย เรียกได้ว่า การเสียสละจะส่งต่อการเสียสละครั้งใหม่ก็ว่าได้ หากต้องการให้สังคมน่าอยู่ มีความสุข มีความเสียสละต่อประโยชน์ส่วนรวมต่อกัน ก็เริ่มต้นที่ตัวเรา รับรองว่าพอทำรวมกันสังคมจะเกิดพลังจนเปลี่ยนแปลงแน่นอน